นายกฯ ลุยมอบนโยบายสนับสนุนงบปราบยาเสพติด
ปัญหายาเสพติดถือเป็นนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง รัฐบาลจึงได้ประกาศให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็น “วาระแห่งชาติ” โดยจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด
ภายหลังจากที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงต่อที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ว่า ปัญหายาเสพติดถือเป็นนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากส่งผลกระทบ ต่อความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และคุณภาพชีวิตของเยาวชนไทย รัฐบาลจึงได้ประกาศให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็น “วาระแห่งชาติ” โดยจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดครอบคลุม และเป็นระบบ ทั้งการตัดต้นตอการผลิตและจำหน่าย ด้วยความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านการสกัดกั้นเส้นทางลำเลียงการปราบปรามจับกุมผู้ค้า และการยึดทรัพย์สินของเครือข่ายผู้กระทำผิดรายสำคัญ พร้อมทั้งมีระบบฟื้นฟูและติดตามผู้เสพ
เพื่อป้องกันไม่ให้กลับเข้าสู่วงจรอีก และเพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพเกิดผลในทางปฏิบัติรัฐบาลได้ผลักดัน ยุทธศาสตร์ SEAL – STOP – SAFE อย่างเข้มข้น โดย SEAL ปิดล้อมพื้นที่ต้นทาง สกัดยาไม่ให้ทะลักเข้าไทย STOP หยุดยั้งการแพร่ระบาดในประเทศ โดยกวาดล้างผู้ค้าอย่างเด็ดขาด SAFEทำให้ชุมชนปลอดภัย ลูกหลานไทยห่างไกลยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ภายใต้การนำของ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สนองนโยบายดังกล่าวทันที พร้อมเปิดยุทธการเชิงรุกปราบปรามยาเสพติดแบบเข้มข้นทั่วประเทศ ปิดล้อม–บุกจับ–ขยายผล-ยึดทรัพย์ ทั้งคน เส้นทางการเงิน และทรัพย์สิน โดยล่าสุดวันนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานการประชุมมอบ นโยบาย และแถลงผลการปฏิบัติ ที่ กองบัญชาการตํารวจปราบปรามยาเสพติด โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ
น.ส.แพทองธาร ได้กล่าวมอบนโยบายให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานพร้อมขอบคุณความร่วมมือ ตั้งแต่มีมาตรการ “SEAL – STOP – SAFE“ ของรัฐบาลประมาณ 3 เดือนครึ่ง ซึ่งเห็นได้ชัดว่า ทุกฝ่ายทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการจนทำให้เกิดผลสำเร็จที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมให้ประชาชนได้เห็น
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้อนไปถึงในสมัยของรัฐบาลพรรคไทยรักไทยที่ปราบยาเสพติดได้สำเร็จ ซึ่งจะมีจำนวนหนึ่งที่มีแหล่งผลิตอยู่ในประเทศไทย แต่ตอนนี้ย้ายฐานการผลิตไปอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีกำลังการผลิตมากขึ้นและมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ซึ่งทุกวันนี้สามารถสกัดกั้นและปราบปรามได้เยอะมากต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนและผู้ที่แจ้งเบาะแส
หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเครื่องที่จะทำเรื่องนี้ต่อไปเพื่อให้ประเทศพัฒนาก้าวหน้า เพราะยาเสพติดเป็นปัจจัยที่กีดขวางทำให้ลูกหลานต้องติดยาครอบครัวมีความทุกข์ บางครอบครัว มีการฆ่ากันจนเสียชีวิตและที่สำคัญอยากให้ทุกคนเปิดใจยอมรับผู้ที่ติดยาเสพติดกลับเข้ามาในสังคมเพื่อเริ่มต้นใหม่หลังเข้ารับการบําบัดฟื้นฟู
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้ให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่ารัฐบาลจะสนับสนุนทุกวิถีทางไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยีและงบประมาณในการปราบปรามยาเสพติดพร้อมให้กําลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติที่เสียสละในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดให้หมดไปจากประเทศ
สําหรับผลการสกัดกั้นปราบปรามยาเสพติด ตลอดช่วงเดือน เม.ย. ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน หลังจากการเปิดปฏิบัติการ SEAL – STOP – SAFE กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้เดินหน้า ปิดล้อม–บุกจับ–ขยายผล-ยึดทรัพย์ เครือข่ายรายสำคัญได้กว่า 31 คดี ผู้ต้องหา 34 คน ยึดยาบ้า 29.93 ล้านเม็ด เฮโรอีน 126 กิโลกรัม ไอซ์และคีตามีน 4,443 กิโลกรัม ยึดอายัดทรัพย์สิน 1,900 ล้านบาท
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews